98 ภาพรวมธุรกิจ การประกอบธุรกิจ และผลการดำเนินงาน การกำกับ ดูแลกิจการ ข อมูล ทางการเงิน ร า ย ง า น ป ร ะ จ ำ ป 2 5 6 5 การขับเคล� อนธุรกิจ เพ� อความยั่ งยืน กระบวนการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (GRI 3-3, 418-1) กระบวนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ความมุ่งมั่น บจ. ไทยแอร์เอเชีย มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนารูปแบบการทำ �งานให้ มีประสิทธิภาพอย่างสม่ำ �เสมอ โดยการใช้เทคโนโลยีเป็นตัวกระตุ้น ผลักดันเพือก่อให้เกิดนวัตกรรมและสามารถประยุกต์ใช้งานได้จริง อย่างมีประสิทธิภาพ เพือสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัท ในเรือง ของการใช้เทคโนโลยีเพือเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ สูงสุด และดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนแม้ปัจจุบันผลกระทบจาก โควิด-19 ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำ �วันของทุกคน นวัตกรรมและเทคโนโลยีจึงเป็นปัจจัยที่สำ �คัญในการขับเคลือนและ เพิ่มขีดจำ �กัดความสามารถในทุกกิจกรรมดังนั้น บจ. ไทยแอร์เอเชีย จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้ความท้าทาย และความต้องการของ ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอย่างสม่ำ �เสมอ นอกจากนี้ บุคลากรของ บจ. ไทยแอร์เอเชีย ได้มีโอกาสในการใช้ทรัพยากรที่มีนำ �มาพัฒนา ต่อยอด เพือตอบสนองต่อความต้องการใช้งานผลิตภัณฑ์ได้อย่างสูงสุด ทั้งนี้ได้ปรับกลยุทธ์การแสวงหารายได้ให้มีความยืดหยุ่นเพือพร้อม ตอบรับกับสถานการณ์ที่ผันผวน การเช็กอินแบบไร้สัมผัส จากสถานการณ์โควิด-19 บริษัทได้ออกมาตรการเพื่อลดความเสี่ยง จากการติดเชื้อโดยการลดการอยู่ใกล้ชิดกับบุคคลอืน และลดการสัมผัส อุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกันในสาธารณะ เพือเป็นการตอบโจทย์และลด ความเสี่ยงที่เกิดจากการเช็กอินของผู้โดยสาร โดยคำ �นึงถึงความ ปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานที่ให้บริการโดยพัฒนาตู้ Kiosk จากแบบเดิมที่สัมผัสหน้าจอเพือใส่รายละเอียดข้อมูลการเดินทาง เป็นการสแกนคิวอาร์ โคด ผ่านสมาร์ทโฟนของผู้ โดยสารเพือรับ บัตรโดยสาร เพือลดการสัมผัสอุปกรณ์ที่ต้องใช้งานร่วมกัน เป็นจำ �นวน ทั้งหมด 80 เครืองในทุกสนามบิน เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 และยังดำ�เนินการพัฒนาอย่างต่อเนืองมาถึงปัจจุบัน ซึ่งทำ �ให้ประหยัดการใช้กระดาษ ที่ใช้การปรินต์บัตรที่นั่งเป็นจำ �นวน 3,472,821 แผ่น หรือคิดเป็นเงิน 1,041,846.30 บาท และระบบการเช็กอินแบบไร้การสัมผัสยังมีประสิทธิภาพการทำ �งาน โดยไม่มีความผิดพลาดจากการปฏิบัติงานโดยเจ้าหน้าที่ภาคพื้น คิดเป็นร้อยละ 100 มาตลอดระยะเวลาตั้งแต่เปิดใช้งาน จนถึง ปัจจุบัน นอกจากนี้ แผนกภาคพื้นได้เริ่มพัฒนาระบบการจัดเก็บเอกสารประจำ � เที่ยวบิน (Trip File) ในรูปแบบดิจิทัล เพือลดการใช้กระดาษในบางส่วน ช่วยลดการใช้เอกสารได้ทั้งสิ้น 520,890 แผ่น นับเป็นโครงการนำ �ร่อง ก่อนขยายผลครอบคลุมไปยังทุกส่วนงาน รวมถึงการนำ �ระบบ Auto Flight Break Up Form เข้ามาใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 เพือทดแทนการ ใช้กระดาษในการส่งต่อข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ลดความคับคั่ง ในการสือสารผ่านวิทยุ และเพือเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายทอด ข้อมูลทำ �ให้ข้อมูลที่ได้รับมีความถูกต้องแม่นยำ � รวมถึงลดการทำ �งาน ที่ซ้ำ �ซ้อน ระบบการบันทึกข้อมูลผู้ โดยสารขึ้นเครืองผ่านระบบ Handheld ถูกนำ �มาใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เพือเพิ่มความแม่นยำ �ในการตรวจสอบ ข้อมูลผู้โดยสารและป้องกันความผิดพลาดจากพนักงาน การนำ � นวัตกรรมทั้งหมดเข้ามาใช้นอกจากจะช่วยลดการใช้กระดาษ เพิ่ม ประสิทธิภาพการทำ �งาน ลดปัญหาและความผิดพลาดที่เกิดจากคน แล้วยังช่วยลดพื้นที่ในการจัดเก็บเอกสารในรูปกระดาษ ทำ �ให้เรียกใช้ ข้อมูลย้อนหลังได้ง่าย และสามารถนำ �ข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์เชิง ตัวเลขได้ด้วยเช่นกัน ผลการดำ �เนินงานและเป้าหมาย ผู้โดยสารได้ ใช้งานระบบการเช็กอินแบบไร้การ สัมผัสคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 47 ของผู้โดยสารที่ ทำ �การเช็กอินเพือเดินทางภายในประเทศ
RkJQdWJsaXNoZXIy ODEyMzQ3